โดย : admin | เมื่อ : 2017-04-18 14:51 | เข้าชม : 1662
O พุทธศาสนิก พึงอบรมเมตตาให้ยิ่ง
พุทธศาสนิกผู้นับถือพระพุทธศาสนา แม้ไม่สนใจที่จะอบรมเมตตาให้อย่างยิ่งก็เหมือนไม่สนใจในความสงบเย็นเป็นสุขของตนเอง ไม่สนใจที่จะปฏิบัติตนเป็นผู้มีปัญญาทั้งๆ ที่ย่อมรู้ว่าผู้มีปัญญานั้น เป็นที่ยกย่องสรรเสริญทุกที่ทุกกาลเวลา
การอบรมเมตตาต้องใช้ความคิดเป็นกำลังสำคัญ คิดให้ใจอ่อนละมุนเพียงไรก็ทำได้เช่นเดียวกับคิดให้ใจเร่าร้อนราวกับน้ำเดือดก็ทำได้ นั่นก็คือคิดให้เมตตาก็ได้คิดให้โกรธแค้นเกลียดชังก็ได้ ท่านจึงสอนให้ระวังความคิด ให้ใช้ความคิดให้ถูกให้ชอบ ให้มีเมตตายิ่งขึ้น และยิ่งขึ้น
O อุบายในการใช้ความคิดเพื่ออบรมเมตตา
หลายๆ คน ใช้วิธีหลายๆ วิธี ในการอบรมเมตตา เช่น ครูอาจารย์บางคนเมื่อมีลูกศิษย์ลูกหามากมายจะทำความรู้สึกต่อลูกศิษย์เหล่านั้นเหมือนที่เป็นความรู้สึกต่อบุตรธิดาของตน
เมื่อแรกเริ่มเป็นครูอาจารย์ใหม่ๆ เริ่มอบรมความคิดนี้ใหม่ๆก็ย่อมไม่เป็นจริงจังเท่าไรนัก บุตรธิดาของตนก็ยังไม่เหมือนนักเรียนลูกศิษย์นักเรียนก็ยังเป็นนักเรียน ลูกก็ยังเป็นลูก ที่มีความพิเศษแตกต่างกันความรักความห่วงใย ความเอื้ออาทรสอนสั่งไม่เสมอกัน
แต่ครั้นเป็นครูอาจารย์นานปีเข้าและไม่เปลี่ยนใจที่จะมองลูกศิษย์ให้เหมือนเป็นลูกตนความรู้สึกก็มีความกลมกลืนลึกซึ้งขึ้นเป็นลำดับจนใกล้จะเห็นลูกศิษย์เป็นลูกตนได้จริงๆ ความรู้สึกนั้นแน่นอน เป็นความเมตตาเพราะความรู้สึกของมารดาบิดดาต่อบุตรธิดาไม่ใช่อะไรอื่น
แต่เป็นเมตตาอันบริสุทธิ์แท้จริง เมตตาที่มีต่อเฉพาะบุตรธิดาตนย่อมคับแคบกว่าเมตตาที่แผ่ครอบคลุมไปถึงบุตรธิดาผู้อื่นหรือลูกศิษย์ลูกหาของตนนั่นเอง การอบรมเมตตาจึงทำด้วยวิธีพยายามคิดดังกล่าวได้
ครูอาจารย์...อบรมเมตตาได้ด้วยการพยายามคิดว่า ลูกศิษย์ทุกคน คือบุตรธิดาที่รักของตนนักเรียน...ก็อบรมเมตตาได้ด้วยการพยายามคิดว่าครูอาจารย์คือมารดาบิดาที่มีความรักความห่วงใยตน หวังดีต่อตนอย่างจริงใจ
การอบรมเมตตาก็เช่นเดียวกับการทำอะไรๆ หลายอย่าง จะให้บังเกิดผลก็จะต้องทำเสมอทำติดต่อกันเป็นนิตย์ แล้วก็จะบังเกิดผลจริง
O เมตตาที่บริสุทธิ์ แท้จริง นำชัยชนะมาสู่ตนได้
เด็กหญิงน่ารักอายุ ๒ ขวบคนหนึ่ง อบรมเมตตาให้เพื่อนรุ่นราวคราวกันและควรจะเป็นการอบรมจิตใจผู้ใหญ่ที่ได้รู้ได้ยินด้วย คือวันหนึ่งเมื่อเพื่อนตัวน้อยๆ เท่ากัน จะบี้มดที่กำลังเดินอยู่กับพื้นเด็กหญิงห้ามทันที มีเหตุผลจากใจจริง ที่จับใจผู้ใหญ่ทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง “อย่าทำ ! เดี๋ยวแม่มดกลับมาไม่เห็นลูกมด”
แม้ใครทั้งหลายที่กำลังคิดจะทำลายชีวิตสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่หรือกระทั่งชีวิตมนุษย์ ก็น่าจะนำเสียงห้ามของเด็กหญิงน้อยๆ ดังกล่าวมาเตือนตนเองบ้าง
“อย่าทำ ! เดี๋ยวแม่ปลาหาลูกปลาไม่พบ” หรือ
“อย่าทำ !เดี๋ยวลูกยุงร้องไห้ คิดถึงแม่ยุง” หรือ
“อย่าทำ ! เดี๋ยวลูกนกไม่มีแม่นก” หรือ
“อย่าทำ ! เดี๋ยวไม่มีใครเลี้ยงลูกเขา”
เตือนตนเองด้วยจริงใจให้รู้สึกจริงจังดังที่คิด หรือที่เปล่งวาจาก็ย่อมเป็นการอบรมเมตตาอีกวิธีหนึ่งที่ง่ายและน่าทำเสมอๆ
“อย่าทำ ! เดี๋ยวแม่ปลาหาลูกปลาไม่พบ” หรือ
“อย่าทำ !เดี๋ยวลูกยุงร้องไห้ คิดถึงแม่ยุง” หรือ
“อย่าทำ ! เดี๋ยวลูกนกไม่มีแม่นก” หรือ
“อย่าทำ ! เดี๋ยวไม่มีใครเลี้ยงลูกเขา”
เตือนตนเองด้วยจริงใจให้รู้สึกจริงจังดังที่คิด หรือที่เปล่งวาจาก็ย่อมเป็นการอบรมเมตตาอีกวิธีหนึ่งที่ง่ายและน่าทำเสมอๆ
เมตตานั้นไม่จำเป็นที่ผู้ใหญ่จะเป็นฝ่ายสอนเด็กเสมอไป แม้เด็กก็สอนผู้ใหญ่ได้ทั้งๆ ที่เด็กไม่ได้รู้ว่ากำลังเป็นผู้สอนและเด็กก็ไม่รู้ว่าความคิดของตนเกิดแต่เมตตาที่บริสุทธิ์แท้จริง
O เมื่อมีใจพร้อม ก็ยอมรับคำเตือนใจให้เมตตาได้
สำหรับผู้ใหญ่ที่ใจพร้อมจะรับคำเตือนใจให้เมตตาย่อมรับแม้เป็นคำเตือนของเด็กปฏิบัติให้เกิดผลทันที เช่นรายที่เคยเล่าว่าครั้งหนึ่งชอบยิงนกตกปลามาก เดี๋ยวนี้เลิกแล้วเลิกตั้งแต่วันหนึ่งถือปืนไปเที่ยวยิงนกกับลูกชายน้อยๆ พอยิงนกตกลงตัวหนึ่งก็สั่งให้ลูกชายไปเก็บ
คิดว่าลูกชายคงจะตื่นเต้นดีใจตามประสาเด็กที่เห็นนกซึ่งกำลังบินอยู่กลางอากาศร่วงลงดิน แต่ลูกชายกลับมีสีหน้าพิศวงสงสัยและถามเขาซื่อๆ ว่า “นกตัวนี้มันทำอะไรพ่อหรือ พ่อจึงยิงมัน”
คำถามที่ซื่อแสนซื่อของเด็กชายเล็กๆ ที่ถือร่างไร้ชีวิตของตนอยู่ในมือทำให้ตั้งแต่วันนั้นมาเขาไม่เคยยิงนกตกปลาอีกเลย นกปลาเหล่านั้นมันทำอะไรให้นี่คือคำถามที่จะนำไปสู่ความเมตตาได้แน่นอน
O ใจที่เมตตาเป็นนิตย์ มีผลงดงามแก่จิตใจอย่างยิ่ง
เมื่อเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทำลายชีวิตเสียมากมายคงไม่มีใครที่ได้รู้ได้เห็นจะไม่สลดสังเวช ความรู้สึกนั้นคือ เมตตาและกรุณากันเกิดพร้อมกันขณะนั้น ทุกคนปรารถนาจะช่วยเพื่อให้ผู้ประสบเคราะห์กรรมเหล่านั้น ให้พ้นจากความทุกข์ทรมานความรู้สึกนั้นในขณะนั้น
น่าจะเป็นความรู้สึกที่งดงามอย่างยิ่ง จากใจจริงอย่างยิ่งเป็นเมตตาที่แท้จริงอย่างยิ่งเป็นความรู้สึกที่แม้เกิดขึ้นในจิตใจของทุกคนต่อเพื่อนร่วมทุกข์ทั้งหลายให้สม่ำเสมอเป็นนิตย์ จักเป็นการอบรมใจให้มีเมตตา ที่มีผลงดงามแก่จิตใจตน
ภัยอันน่าสะพรึงกลัวอาจเกิดได้ทุกเมื่อ แก่ผู้ใดชีวิตใดก็ได้แก่เราแก่เขาก็เช่นกัน ทุกชีวิตจึงควรได้รับความรู้สึกสลดสังเวชจากทุกคน ทุกเวลาไม่ใช่เมื่อเกิดเหตุน่าสยดสยองขึ้นแล้ว จึงจะสงสาร จึงจะสลดสังเวชอย่างนั้นช้าเกินไป
O ความเย็นแห่งความเมตตา ดับความร้อนของโลกได้
ทุกชีวิต ทุกเวลา ตกอยู่ในสภาพที่ควรได้รับเมตตา จึงควรพากันเมตตาให้กว้างขวางให้ทุกเวลานาที จะเป็นการถูกต้อง เป็นการอบรมเมตตา เพื่อให้ตนเองนั่นแหละเป็นสุขก่อนใครทั้งหมด
เมื่อเกิดแล้ว ทุกชีวิตมีทุกข์ติดมาพร้อมแล้ว น่าสงสารทุกชีวิตเราก็น่าสงสารเขาก็น่าสงสาร น่าสงสารทุกเวลานาที พึงนึกถึงความจริงนี้ และมีเมตตาต่อทุกชีวิตทุกเวลาเถิด ความร้อนจะคลายได้ด้วยอำนาจของความเย็นแห่งเมตตา ทั้งความร้อนของเขาความร้อนของเรา และความร้อนของโลก
O ความจริงที่ทุกชีวิตไม่ควรประมาท
ไม่ใช่เป็นการสอนให้หัดคิดในแง่ร้ายที่กล่าวว่าทุกชีวิตตกอยู่ในอันตรายที่น่าสยดสยองทุกเวลานาที อะไรจะเกิดแก่ใครก็ได้เมื่อใดก็ได้ ร้ายแรงเพียงใดก็ได้ แต่เป็นการบอกความจริงที่ควรไม่ประมาท
เหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น น่าสยดสยองนักหนานั้นก็หาได้รู้กันล่วงหน้าไม่ว่าจะเกิดเมื่อนั้นเมื่อนี้ เกิดที่นั่นที่นี่เกิดกับคนนั้นคนนี้ เมื่อเห็นเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าก็น่าจะเชื่อได้ว่าทุกชีวิตอยู่ในอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดเมตตากันไว้ทุกเวลาก็น่าจะถูกต้อง เป็นการอบรมเมตตาที่งดงามนัก เป็นคุณนักแก่ตนเองและแก่โลก
ผู้ที่นั่งไปในรถ โดยเฉพาะที่ผู้ขับเร็วมากๆ เคยเล่าว่าหัวใจจะหยุดเพราะความกลัวขณะเดียวกันใจก็คอยแต่คิดว่าคงไม่รอดแน่ๆ แหลกแน่ๆ พังแน่ๆนั่นก็แสดงความรู้สึกที่เป็นธรรมะ ไม่ประมาทว่าชีวิตจะเที่ยงเมื่อมีความหวาดกลัวขณะนั่งอยู่ในรถดังกล่าว จะเป็นความไม่ถูกต้องถ้าเพียงแต่กลัวแล้วก็ใจหายใจคว่ำไม่เป็นสุข ทั้งบางทียังจะคิดไม่ดีต่างๆ นานา ต่อผู้ขับอีกด้วย
ที่ถูกนั้น เมื่อนึกถึงความไม่เที่ยงของชีวิต เห็นความน่ากลัวอย่างยิ่งและกลัวนักหนา ก็อย่าหยุดเพียงนั้น ให้นึกถึงชีวิตอื่นๆ ทั้งหลายทุกชีวิตกลัวตายด้วยกันทั้งนั้น การไม่เบียดเบียนกันมีเมตตาต่อกันจึงสมควรที่สุด
O ไม่ว่าเราหรือเขา ต่างก็ล้วนต้องการความเมตตา
เมื่อเกิดความกลัวอันตรายนักหนา เป็นต้นขณะนั่งรถที่คนขับแบบไม่รู้จักความตายเราก็อยากขอให้เขาเห็นใจเรา ที่เรากลัวอย่าขับรถให้น่ากลัวถึงเพียงนั้นถ้าคนขับยังใจดี ฟังเสียงขอร้องของเราบ้าง เราก็จะสบายใจขึ้นถ้าเป็นคนขับรถที่ไม่ยอมฟังเสียงเราเลย ไม่เห็นใจเลยว่าเรากลัวเราก็จะต้องแทบหัวใจหยุดเต้นต่อไปนาน
ผู้ตกอยู่ในความทุกข์ ทุกคนต้องการผู้เห็นใจต้องการผู้เมตตาเช่นเดียวกับที่ผู้นั่งรถเร็วๆ ต้องการให้คนขับรู้จักคิดถึงใจบ้างเห็นใจบ้างที่ต้องทุกข์ทรมานใจเพราะความกลัวนั้นนักหนาไม่ปรารถนาให้เป็นเช่นนั้นต่อไป
ทุกคนต้องการความเมตตาทั้งนั้น เราก็ต้องการ เขาก็ต้องการเราจึงไม่ควรจะเป็นผู้รับฝ่ายเดียว ควรเป็นผู้ให้ด้วย และควรให้อย่างเสมอ คือมีเมตตาให้เสมอ ให้ไม่มีขอบเขต
O โลกเย็นเพราะเมตตายิ่ง
โลกเย็นเพราะเมตตายิ่ง โลกร้อนเพราะเมตตาหย่อน นี้เป็นความจริงที่ควรยอมรับและควรแก้ไข อันการแก้นั้นก็ไม่ต้องไปแก้ผู้อื่น ต้องแก้ที่ตัวเองแก้ตัวเองให้ยิ่งด้วยเมตตา หรือให้เมตตายิ่งขึ้นนั่นเอง
เมื่อลูกหลานออกมาเห็นโลกเป็นครั้งแรก สิ่งที่มารดาบิดาปู่ย่าตายายควรนึกถึงนั้นคือ ความน่าสงสารอย่างยิ่งของทารกน้อย ชีวิตแห่งความทุกข์ของเขาเริ่มจริงแล้วทุกชีวิตจริงๆ ไม่ว่าเด็กคนไหน ไม่ว่าลูกใครหลานใคร เมื่อมาสู่โลกเมื่อไรเข้าสู่เงื้อมมือของความทุกข์เมื่อนั้น เช่นนี้แล้วจะไม่น่าเมตตาได้อย่างไร
เมื่อมีเมตตาต่อผู้ใดอย่างจริงใจก็แน่นอนที่จะต้องคิดพูดทำทุกอย่างตามกำลังความสามารถ เพื่อช่วยให้สบายใจช่วยให้สบายกาย ช่วยให้หายร้อน ช่วยให้หายทุกข์
มีเมตตาที่จริงใจเพียงอย่างเดียว จะเป็นเหตุให้เกิดผลงานมากมายเป็นคุณทั้งแก่ผู้รับและผู้ให้
มีเมตตาที่จริงใจเพียงอย่างเดียว จะเป็นเหตุให้เกิดผลงานมากมายเป็นคุณทั้งแก่ผู้รับและผู้ให้
ทุกคนสนิทใจ ยินดี อบอุ่น ที่จะได้เข้าใกล้สนทนาวิสาสะกับผู้ที่มีเมตตาแต่ทุกคนจะไม่สบายใจนัก แม้จะต้องอยู่ร่วมสมาคมกับผู้ไม่เมตตา
O เมตตาเป็นความสำคัญแก่ทุกจิตใจ
นึกถึงใจตนเอง แล้วก็นึกถึงใจคนอื่น จะไม่แตกต่างกันในเรื่องนี้แม้ว่าจะแตกต่างกันในเรื่องอื่นนั่นก็คือเครื่องรับรองว่าเมตตาเป็นความสำคัญแก่ทุกจิตใจผู้ไม่เมตตายังชอบผู้มีเมตตา ดังนั้นเพื่อทำตนให้เป็นที่ชื่นชอบของใครทั้งหลายก็พึงอบรมเมตตาให้อย่างยิ่ง
ผู้มีเมตตา...สัตว์ก็รู้ พึงสังเกตได้เวลาผู้มีเมตตาไปที่ไหนหมาแมวก็จะไม่เป็นศัตรู ไม่ขู่ ไม่กัด แม้ว่าจะไม่เคยพบเห็นมาก่อน สัตว์ก็ตามเด็กไร้เดียงสาก็ตาม เป็นที่ยอมรับว่ามีใจสะอาดไม่มีอคติย้อมความรู้สึกให้ผิดไปจากความจริง
O ความไม่มีเมตตา เป็นภัยอย่างยิ่งต่อตนเอง
ผู้มีเมตตาต่อสัตว์...สัตว์รู้ สัตว์จะไม่ระแวงภัยผู้ไม่มีเมตตาต่อสัตว์...สัตว์ก็รู้ สัตว์ก็จะระแวงภัย
ภัยจากสัตว์นั้นอาจจะไม่น่าต้องเกรง ภัยจากหมาแมวเป็นภัยเล็กน้อยนักแต่ภัยจากความไม่มีเมตตาของตนเองนั้น เป็นภัยที่ยิ่งใหญ่ต่อตนเองยิ่งกว่าต่อผู้อื่น สัตว์อื่น เพียงแต่ไม่เห็นกันให้ถูกตามความจริงเท่านั้น
O รสแห่งความเมตตา ชุ่มเย็นยิ่งนัก
ใจที่แล้งเมตตา น่าจะเปรียบได้ดังทะเลทรายไม่มีความชุ่มชื่นให้แก่สายตาหรือจิตใจผู้ใดเลย ผู้ไม่เคยรู้รสของเมตตาในใจตนก็ไม่แตกต่างกับทะเลทรายที่ไม่รู้สึกในความแห้งแล้งร้อนระอุเป็นที่รังเกียจหวั่นเกรงของผู้คนทั้งหลายสัตว์ทั้งปวง
ถ้าไม่เคยรู้รสของเมตตามาก่อน ว่าให้ความชุ่มชื่นแก่จิตใจเพียงไรก็พึงลองให้จริงจัง ก่อนอื่นก็ลองนึกเมตตาที่เคยได้รับจากผู้อื่น แม้สักครั้งเดียวในยามที่ปรารถนาความช่วยเหลือจากใครสักคนเป็นที่สุด
ยิ่งเป็นในยามคับขันมากเพียงใดจะยิ่งเห็นความชุ่มชื่นของเมตตาที่ได้รับจากผู้เข้ามาช่วยเหลือเมตตาให้พ้นความคับขันเพียงนั้น
สำหรับผู้ที่ปรารถนาจะสัมผัสรสของความเมตตาก็อาจจะเริ่มได้ด้วยการย้อนนึกถึงความชื่นใจ โล่งใจที่เคยรู้สึกแทนผู้มีมือแห่งเมตตามาช่วยให้พ้นความคับขันแต่ละครั้ง แต่ละเรื่องเช่น กรณีผู้ถูกตึกถล่มทับที่รอดได้ เป็นต้น
O เมตตาที่แท้ มีคุณกว้างขวางนัก หาขอบเขตมิได้
เมตตามิได้มีคุณแก่ผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ นอกจากว่าจะมิได้เป็นเมตตาที่แท้ คือนอกจากจะเป็นความรักความลำเอียง เพื่อผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของตนเท่านั้นเมตตามีคุณกว้างขวางนัก หาขอบเขตมิได้ ทุกคนมีสิทธิจะแผ่เมตตาให้ทุกคนทุกชีวิตได้และทุกคนมีสิทธิรับเมตตาจากทุกคนได้
เมตตาที่แท้จริง ไม่มีขอบเขต คือ ไม่เลือกผู้รับ ไม่เลือกของเราของเขาไม่เลือกชาติ ศาสนา และไม่เลือกมิตรศัตรู อย่างไรก็ตามเมตตาในใจเท่านั้นที่ไม่มีขอบเขตได้
O ความเมตตาไม่แท้ ทำให้เกิดโทษได้
การแสดงออกต้องอยู่ในขอบเขต ความถูกต้อง ความเหมาะ ความควร จึงจะเป็นเมตตาแท้เพราะจะไม่เกิดโทษ ถ้าการแสดงเมตตาไม่อยู่ในขอบเขตความถูกต้อง จะเป็นเมตตาไม่แท้จะเกิดโทษได้ ทั้งแก่ผู้รับและผู้ให้
มารดาบิดาที่รักลูกตนไม่กล้าขัดใจเมื่อลูกจะทำผิดหรือไม่กล้าดุว่าทำโทษเมื่อลูกทำผิด เช่นนี้ไม่ใช่มีเมตตาต่อลูกแม้จะไม่อาจชี้ชัดลงไปได้ว่าเป็นความไม่เมตตา แต่เมื่อคิดให้ลึกลงไปแล้ว ผู้ใดก็ตามไม่ช่วยชี้ให้ผู้ผิดรู้ตัว ทั้งยังส่งเสริมด้วยการชื่นชมทั้งรูว่าผิดเช่นนั้นเป็นการแสดงความไม่เมตตา
ผู้มีกัลยาณมิตร คือ มีมิตรดีหมายความว่ามีมิตรที่ไม่ตามใจให้ทำความผิดร้ายความไม่ดีต่างๆมีมิตรคอยตักเตือนเมื่อทำผิดทำมิชอบมีมิตรที่มีปัญญาสามารถช่วยแก้ไขป้องกันให้คิดผิดพูดผิดผู้ใดทำตัวเป็นกัลยาณมิตรของใครๆ ได้ ผู้นั้นคือ ผู้ให้เมตตาต่อใครๆ นั้น
O คุณของเมตตา คือ ความเย็น
คุณของเมตตา คือ ความเย็น เมตตามีที่ใด ความเย็นมีที่นั้นผู้มีเมตตาเป็นผู้มีความเย็นสำหรับเผื่อแผ่และผู้ยอมรับเมตตาก็จักได้รับความเย็นไว้ด้วย ผู้มีเมตตาหรือผู้ให้เมตตาเป็นผู้เย็นเพราะไม่มุ่งร้ายผู้ใด มุ่งแต่ดี มีแต่ปรารถนาให้เป็นสุขเมื่อความไม่มุ่งร้ายมีอยู่ ความไม่ร้อนก็ย่อมมีอยู่เป็นธรรมดา
ความปรารถนาด้วยจริงใจให้ผู้อื่นเป็นสุข ก็เท่ากับปรารถนาให้ตัวเองเป็นสุขจะให้ผลเป็นคุณแก่ตนเองก่อน เช่นเดียวกับการมุ่งร้ายต่อผู้อื่นก็จะให้ผลเป็นโทษแก่ตนเองก่อน จึงควรมีสติรู้ตัวว่ามีความมุ่งร้ายหรือปรารถนาดีให้ผู้อื่นมีสุขอย่างไร
ถ้ารู้สึกว่ามีความไม่ปรารถนาดีเกิดขึ้นในใจ ก็ให้พยายามทำความรู้ตัวว่าความร้อนรนในใจขณะนั้นหาได้เกิดจากผู้อื่นไม่ แต่เกิดจากใจตนเองและให้พยายามเชื่อว่าแม้ทำความรู้สึกไม่ปรารถนาดีให้ลดน้อยลงได้...ก็จะทำความร้อนภายในใจลดน้อยลงได้ด้วย
ทำความปรารถนาไม่ดีหมดสิ้นได้...ก็จะทำความร้อนใจที่เกิดแต่เหตุนี้ให้หมดสิ้นได้ด้วยความปรารถนาไม่ดีจึงเป็นโทษแก่ตนเองก่อนแก่ผู้อื่น
O เมตตาเป็นเครื่องทำลายความมุ่งร้าย
เมตตาเป็นเครื่องทำลายความมุ่งร้ายหรือความพยาบาทได้อย่างแน่นอนเมตตาจึงเป็นเหตุแห่งความสุขที่เห็นได้ชัด เป็นเหตุที่ควรสร้างให้มีขึ้นเพื่อทำความทุกข์ให้ลดน้อยถึงหมดสิ้นไป
การพยายามมองคนในแง่ดี ในแง่ที่น่าเห็นอกเห็นใจพยายามหาเหตุผลมาลบล้างความผิดพลาดบกพร่องของคนทั้งหลายและการพยายามคิดว่าคนทุกคนเหมือนกัน เป็นธาตุดินน้ำไฟลมอากาศด้วยกันไม่ควรจะถือเราเป็นเขา และเมื่อไม่ถือเป็นเราเป็นเขาแล้วก็ย่อมไม่มีการมุ่งร้ายต่อกันเป็นธรรมดา ความปรารถนาดีต่อกันย่อมมีได้ง่ายและนั่นแหละเป็นทางนำมาซึ่งความลดน้อยของความทุกข์
การพยายามคิดให้เห็นความน่าสงสารน่าเห็นใจของทุกชีวิตที่ต้องประสบพบผ่านทุกวันเวลา คือ การอบรมเมตตาไม่ว่าใครจะเป็นอย่างไรก็ตาม เรารู้ไม่รู้อย่างไรก็ตามเมื่อใครนั้นผ่านเข้ามาในสายตาของเรา
ให้ปรุงคิดเอาเอง ว่าเขาอาจจะกำลังมีทุกข์แสนสาหัสแม่พ่อลูกหลานอาจจะกำลังเจ็บหนักเขาอาจจะกำลังขาดแคลนเงินจนไม่มีจะซื้อข้าวปลาอาหาร เขาอาจจะอย่างนั้นอาจจะอย่างนี้ที่น่าสงสารน่าเห็นใจทั้งนั้น
คิดเอาเองให้จริงจังจนสงสารเขา จนอยากจะช่วยเขาจะสลดสังเวชเห็นความเกิดเป็นความทุกข์ พยายามคิดเอาเองเช่นนี้ทุกวันทุกเวลาแล้วเมตตาจะซาบซึ้งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
O เมตตามากขึ้นเพียงไร ใจจะอ่อนละมุนเพียงนั้น
เมตตามากขึ้นเพียงไรใจจะอ่อนละมุนจนตัวเองรู้สึกได้เพียงนั้นของแข็งกระด้างมือเมื่อสัมผัสถูกต้องกับของอ่อนนุ่มละมุนมือให้ความรู้สึกที่ประณีตนุ่มนวลแตกต่างกันเพียงไรความแตกต่างของใจที่อบรมเมตตาแล้ว กับใจที่ยังไม่เคยอบรมเมตตาเลยนั้นยิ่งกว่าอย่างประมาณมิได้
O เครื่องน้อมนำความรักจากผู้อื่น
ไม่มีผู้ใดปรารถนาจะให้ตนเป็นที่รังเกียจเกลียดชังของใครๆ ทั้งนั้นควรจะกล่าวไม่ผิดว่า ทุกคนไม่มียกเว้นล้วนยินดีจะได้รู้สึกว่าตนเป็นที่รักแต่อาจไม่ค่อยได้คิดนักว่าเครื่องน้อมนำมาซึ่งความรักความจริงใจจากผู้อื่นทั้งหลายนั้น คือ เมตตามากๆ จริงๆจากใจตนเอง
เหตุสำคัญที่สุดที่จะอบรมเมตตาได้สำเร็จ คือ ต้องเชื่อด้วยจริงใจเสียก่อนว่าเมตตามีผลวิเศษสุด พระพุทธศาสนาที่ประเสริฐเลิศล้ำไม่มีเสมอเหมือนก็เกิดขึ้นได้ด้วยมีเมตตาเป็นพื้นฐาน มีปัญญาเป็นยอด คือ เกิดด้วยพระเมตตาและพระปัญญาของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
O ปัญญาจำเป็นอย่างยิ่งต่อการอบรมเมตตา
สำหรับบางคน ที่เทิดทูนบูชาสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นชีวิตจิตใจแม้จะมีสติปัญญาเพียงน้อยนิดไม่อาจดำเนินไปตามทางที่ทรงแสดงประทานไว้ให้บรรลุถึงจุดหมายปลายทางได้แต่ก็มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา
ในกรณีเช่นนี้การอบรมปัญญาย่อมพากเพียรทำเมื่อระลึกอยู่ถึงความจริงที่ว่าสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นทรงมีเมตตาหาผู้เสมอเหมือนไม่ได้ผู้เป็นพุทธศาสนิก แม้ไม่พยายามดำเนินรอยพระพุทธบาทในเรื่องนี้ ในทางแห่งเมตตานี้หาสมควรเป็นศิษย์ของพระองค์ท่านไม่
O การอบรมเมตตา...ไม่พ้นวิสัย หากตั้งใจจริง
ผู้เทิดทูนสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจริง ความรู้สึกที่อาจตำหนิตนได้ว่าไม่สมควรเป็นศิษย์พระองค์ท่านนั้นจะรุนแรงแก่จิตใจจะเห็นความไม่มีค่าของตนอย่างมากมายจนถึงจะทนความรู้สึกนั้นไม่ได้ผลก็คือย่อมจะมุ่งมั่นทำสิ่งที่พึงทำได้ตามรอยพระพุทธบาท และการอบรมเมตตานั้นน่าจะเป็นการทำที่ทำได้ ไม่พ้นวิสัยของทุกคนไป แม้ตั้งใจจริงที่จะทำ
O ข้อแนะนำเพื่ออบรมเมตตา
สำหรับผู้เทิดทูนสมเด็จพระบรมศาสดาด้วยจิตใจจริงมีความภาคภูมิใจจริงที่ได้เกิดมาในพระพุทธศาสนาได้เป็นศิษย์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้อแนะนำเพื่ออบรมเมตตาก็คือพึงนึกถึงความจริงที่ควรเป็นที่ภาคภูมิใจของผู้นับถือพระพุทธศาสนาทั้งหลาย คือทรงมีพระมหากรุณา มีพระเมตตาใหญ่ยิ่ง เป็นที่ประจักษ์ชัดจริงแล้วแก่โลกส่วนที่เป็นความเย็นท่ามกลางความร้อนระอุของโลก เกิดแต่พระมหากรุณา พระเมตตา